ใบมีดเครื่องสับผสม
ผลิตภัณฑ์วิศวกรรมของ ASSAB

ใบมีดเครื่องสับผสม (Bowl Cutter Knives) เป็นใบมีดตัดชนิดพิเศษที่ใช้สำหรับการสับ การผสม และการผสมส่วนผสมอาหาร ในปริมาณมากอย่างมีประสิทธิภาพและสม่ำเสมอ
ปัจจัยที่กำหนดวัสดุที่เหมาะสมสำหรับใบมีด ได้แก่
- ความปลอดภัยด้านอาหารและสุขอนามัย (Food Safety and Hygiene)
วัสดุที่ใช้เป็น food-grade และเป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องสำหรับพื้นผิวที่สัมผัสอาหาร เราขอแนะนำเหล็กกล้าไร้สนิม เนื่องจากมีความทนทานต่อการกัดกร่อน ทำความสะอาดได้ง่าย และทนทานต่อการฆ่าเชื้อบ่อยๆ
- ความต้านทานต่อการสึกหรอ (Wear resistance)
เพื่อให้มีความทนต่อการตัดที่ต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง
- ความแข็งแกร่งและความทนทาน (Strength and toughness)
ในการทำงานนั้น ใบมีดจะต้องรองรับแรงเค้นและแรงกระแทกในระหว่างกระบวนการตัด มีดจึงไม่ควรบิ่น แตก หรือหักได้ง่าย
- การบำรุงรักษาขอบใบมีด (Edge retention)
ใบมีดควรจะมีขอบตัดที่คมอยู่เสมอเพื่อให้สามารถใช้งานได้เป็นระยะเวลานานซึ่งจะช่วยทำให้มั่นใจในประสิทธิภาพการตัดที่สม่ำเสมอ และลดความจำเป็นในการลับคมหรือเปลี่ยนบ่อยครั้ง
- ความต้านทานต่อการกัดกร่อน (Corrosion resistance)
ใบมีดต้องมีการสัมผัสกับน้ำ ความชื้น และส่วนประกอบที่เป็นกรดจากอาหารทั้งหลาย
- ความทนทานต่ออุณหภูมิ (Temperature Resistance)
วัสดุควรสามารถความทนทานต่ออุณหภูมิที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการตัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องจักรที่ต้องใช้ความร้อนปรุงหรือผสมอาหาร
ใบมีดเครื่องสับผสมของ ASSAB มีความสมดุลที่เหนือชั้น โดยมีความต้านทานต่อการสึกหรอสูง มีการยกระดับความเหนียวแน่นเพื่อป้องกันการแตกหัก รวมถึงมีความต้านทานต่อการกัดกร่อนในระดับดีเยี่ยม
ใบมีดเครื่องสับผสม (Bowl Cutter Knives) ของ ASSAB มีความสมดุลที่เหนือชั้น โดยมีความต้านทานต่อการสึกหรอสูง มีความเหนียวเพื่อป้องกันการแตกหัก รวมถึงมีความต้านทานต่อการกัดกร่อนในระดับดีเยี่ยม ทำให้มีระยะรอบการลับคมที่ยาวนานขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งส่งผลให้มีผลการผลิตที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนโดยรวมลดลง
ใบมีดเครื่องสับผสมของ ASSAB เข้ากันได้กับเครื่องสับผสมทางอุตสาหกรรมทุกยี่ห้อ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าจะพร้อมใช้งานสามารถผสานเข้ากับการตั้งค่าต่างๆ ของเครื่องได้อย่างราบรื่น
ไม่ว่าจะใช้เครื่องจักรประเภทใด เทคโนโลยีนี้สามารถสร้างประโยชน์แก่ลูกค้า ดังนี้
- อายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ามาตรฐานทางอุตสาหกรรม
- ความพร้อมใช้งานและประสิทธิภาพของเครื่องจักรที่สูงขึ้น
- ต้นทุนการผลิตโดยรวมที่ลดลงอย่างมาก
- การบำรุงรักษาลดน้อยลง
- มีการพัฒนาด้านการลับคมที่ดีขึ้นกว่าเดิม