การตัด
การวิจัยช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างกลไกความเสียหายเชิงกลและคุณสมบัติของเหล็กกล้าเครื่องมือ ดังนั้นเมื่อเลือกเกรดเหล็กที่ถูกต้อง โดยเฉพาะเหล็กกล้าแม่พิมพ์งานเย็น การพิจารณากลไกความเสียหายเชิงกลจะช่วยยืดายุการใช้งานของแม่พิมพ์ได้อย่างมาก
เหล็กกล้าไร้สนิมประเภทออสทินิติก (Austenitic Stainless Steel)
ปัญหาที่พบทั่วไปมากที่สุดในการตัดขึ้นรูปเหล็กกล้าไร้สนิมประเภทออสทินิติกคือ ความสึกหรอแบบยึดติด การบิ่นกะเทาะและการครูด ในเบื้องต้นวัสดุที่อ่อนนุ่มและมีแนวโน้มที่จะยึดประสานกับผิวเครื่องมือ แต่เนื่องจากเหล็กประเภทนี้จะมีความแข็งผิวเพิ่มขึ้นในขณะทำการขึ้นรูป เป็นเหตุให้เหล็กแม่พิมพ์มีภาระจากความเค้นสูงขึ้นและอาจนำไปสู่การกะเทาะและแตกร้าวได้ ปริมาณการผลิต ความหนาของแผ่นเหล็กกล้าไร้สนิมก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกเกรดเหล็กกล้าเครื่องมือด้วย เราลดปัญหาเหล่านี้ได้โดยการเลือกวัสดุที่ทนต่อความสึกหรอจากการยึดติดและการกะเทาะ
เหล็กกล้าที่ผลิตด้วยกระบวนการโลหะผง SuperClean เช่น Vanadis 4 Extra SuperClean และ Vancron SuperClean สามารถใช้งานที่มีการผลิตระยะยาวเป็นพิเศษ ASSAB 88, Caldie และ Calmax เป็นเกรดเหล็กที่เหมาะสำหรับการผลิตระยะกลางและสั้น
Advanced High Strength Steel (AHSS)
ด้วยความแข็งและความทนต่อแรงดึงของเหล็กกล้า Advanced High Strength Steel จำเป็นต้องมีวัสดุทำเครื่องมือที่ทนต่อการสึกหรอ ต้านทานต่อการกะเทาะและการแตกร้าวสูง ข้อกำหนดเหล่านี้มีความสำคัญมากขึ้นไปอีกสำหรับเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษ หรือเกรดมาร์เทนซิติกที่ใช้ในปัจจุบันนี้ ซึ่งต้องมีวัสดุในการทำแม่พิมพ์ที่มีความทนทานต่อความเสียหายประเภทต่างๆ มากมาย
เพื่อประสิทธิภาพเหนือกว่าในการตัดแผ่นเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงและสูงเป็นพิเศษ โปรดเลือกเหล็กกล้าที่ผลิตด้วยกระบวนการโละผงของ ASSAB เช่น Vanadis 4 Extra SuperClean หรือ Vancron SuperClean เกรดเหล็กที่ผลิตจากแนวคิดสมัยใหม่ เช่น ASSAB 88 และ Caldie ซึ่งให้ประสิทธิผลที่ดีกว่าเหล็กกล้างานเย็นแบบดั้งเดิมมากด้วย
เหล็กกล้าคาร์บอนต่ำ
การปั้มตัดเหล็กกล้าคาร์บอนที่มีความแข็งต่ำมีแนวโน้มที่จะเกิดความเสียหายเชิงกลหลากหลายประเภท ปัจจัยที่มีอิทธิพลบางประการคือปริมาณการผลิต ความหนาของเหล็กและความซับซ้อนของชิ้นส่วนที่ต้องการผลิต ประเภทเหล็กกล้าแม่พิมพ์ส่วนใหญ่สามารถใช้ได้สำหรับการปั้มตัดเหล็กกล้าคาร์บอนต่ำแต่ปัจจัยหลักในการเลือกเหล็กกล้าแม่พิมพ์คือต้นทุนการผลิตโดยรวม
จากชิ้นงานที่มีความหนาเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงต่อการบิ่นกะเทาะก็เพิ่มมากขึ้นด้วย ความเสี่ยงของการเชื่อมประสานระหว่างผิวของแม่พิมพ์และผิวของชิ้นงานเป็นการเพิ่มความสึกหรอแบบยึดติดและการครูดด้วย การถอนตัวของแม่พิมพ์ตัวบนอาจเกิดการแตกร้าวได้เพราะความหนาเพิ่มขึ้นทำให้มีแรงกระทำในการถอนตัวมากขึ้น โปรดเลือกเหล็กกล้าแม่พิมพ์ที่มีความสะอาดสูงและมีการกระจายตัวของคาร์ไบด์ที่ดีในเนื้อเหล็กที่มีความเป็นเนื้อเดียวกันสูงเช่นเหล็กกล้าโลหะผง SuperClean
| ASSAB 88 | |
| ASSAB DF-3 | |
| ASSAB Tool Steel Performance Chart | |
| Vanadis 8 SuperClean | |
| Vancron SuperClean |